วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีการเข้าหัวสายแลน

หากเราต้องการใช้คอมบนเครือข่ายเน็ตเวิร์ก เราก็ต้องใช้สายแลนเป็นตัวนำสัญญาณในการเชื่อต่อ โดยที่สายแลนมีทั้งแบบสำเร็จรูป กับแบบที่ต้องทำการเข้าหัวแลนเอง โดยแบบสำเร็จรูปเหมาะสำหรับผู้ใช้ในบ้านทั่วไป แต่แบบเข้าหัวแลนเองนั้นเหมาะสำหรับองค์กรหรือร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งสายแลนที่นิยมใช้กันมี 2 แบบ คือ สาย CAT5e และ สาย CAT6 โดยในที่นี้จะนำเสนอในส่วนของสาย Cat5e

วิธีการเข้าหัวสายแลน

อุปกรณ์
1. สายแลน (Cat5e)
2. คีมเข้าหัว RJ 45

3. หัวสายแลน RJ 45
4. อุปกรณ์วัดสัญญาณ
วิธีการเข้าหัวสายแลน PDF Print E-mail
Monday, 16 August 2010 09:23
หากเราต้องการใช้คอมบนเครือข่ายเน็ตเวิร์ก เราก็ต้องใช้สายแลนเป็นตัวนำสัญญาณในการเชื่อต่อ โดยที่สายแลนมีทั้งแบบสำเร็จรูป กับแบบที่ต้องทำการเข้าหัวแลนเอง โดยแบบสำเร็จรูปเหมาะสำหรับผู้ใช้ในบ้านทั่วไป แต่แบบเข้าหัวแลนเองนั้นเหมาะสำหรับองค์กรหรือร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งสายแลนที่นิยมใช้กันมี 2 แบบ คือ สาย CAT5e และ สาย CAT6 โดยในที่นี้จะนำเสนอในส่วนของสาย Cat5e




ขั้นตอนการเข้า
1. ปลอกเปลือกนอกของสาย CAT5 ออก โดยห่างจากปลายสายประมาณ 2-3 cm. โดยคีมเข้าหัวบางรุ่นจะมีส่วนที่ปลอกเปลือกนอกของสาย RJ45 พอใส่สายแลนเข้าไปแล้วหมุนคีมเป็นวงกลมให้รอบสาย หากคีมเข้าหัวไม่มีในส่วนนี้ ให้ใช้คัตเตอร์หรือกรรไกรแทนตามความถนัด ระวังอย่าให้สายแลนภายในขาด
2. จากนั้นก็ดึงส่วนของปลอกที่แยกออกจากกันออก
3. เมื่อปลอกสายแลนเสร็จแล้ว จะสังเกตเห็นมีเส้นด้ายสีขาว (แล้วแต่ยี่ห้อของสายแลน) ให้ใช้กรรไกรตัดในส่วนของเส้นด้ายสีขาวซะ (อย่าเผลอตัดสายไฟสายแลนละ)
4. จากนั้นคลายเกียวออกมาจะพบสายแลนพันเกลียวเป็นคู่อยู่ 4 คู่
5. จัดเลียงลำดับสายใหม่ (ในกรณีต้องการทำสายตรง ใช้สำหรับเครื่องคอมไป Switch) โดยให้เรียงสีดังนี้ทั้งสองข้าง
ขาวส้ม ส้ม ขาวเขียว ฟ้า ขาวฟ้า เขียว ขาวน้ำตาล น้ำตาล
** ในกรณีต้องการทำสายครอส (สำหรับต่อคอมกับคอม) ให้เรียงตามนี้
ข้างหนึ่งเป็น
ขาวเขียว – ส้ม - ขาวส้ม ฟ้า – ขาวฟ้า – เขียว – ขาวน้ำตาล - น้ำตาล
และอีกข้างหนึ่งเป็น
ขาวส้ม –เขียว – ขาวเขียว -  ฟ้า -  ขาวฟ้า -  ส้ม -  ขาวน้ำตาล - น้ำตาล



6. จากนั้นเรียงสายแลนตามสีให้ถูกต้อง (ตามประเภทการใช้งาน) แล้วใช้กรรไกรตัดให้สายแลนมีขนาดเท่า
.
7. จากนั้นสอดสายแลนเข้าหัว RJ 45 ให้สุดปลอก
8. จากนั้นนำสายแลนที่เข้าหัว RJ 45 แล้ว นำมาเข้าคีม แล้วกดให้มิด (หากไม่แน่ใจให้กดย้ำอีกครั้ง)
9. หลังจากที่เราเข้าหัว RJ 45 กับสายแลนเสร็จแล้ว ให้นำมาทดสอบกับอุปกรณ์วัดสัญญาณ
* สังเกตสัญญาณไฟ ถ้าต่อแบบตรงสัญญาณไฟจะตรงกันทั้งหมด 8 ช่อง หากสัญญาณไฟช่องใดสลับกันแสดงว่ามีหัว
RJ 45 ด้านใดด้านหนึ่งเข้าหัวผิด (สลับสาย) ต้องตัดหัว RJ 45 ที่เข้าหัวผิด แล้วทำการเข้าหัว RJ 45 ใหม่
*ในที่นี้ไม่ได้แสดงการเข้าสายและตรวจวัดสัญญาณของสายครอส เพราะไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แบบทดสอบหลังเรียน บทที่2

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แบบฝักหัดหน่วนที่2

1. ข้อใดคืออุปกรณ์ด้านอินพุทยูนิต
ตอบ เครื่องพิมพ์

2. หน่วยประมวลผลข้อมูลกลางคืออะไร
ตอบ ซีพียู

3.ข้อไดไม่ใช่อุปกรณ์ต่อพ่วง
ตอบ เมนบอร์ด

4. เครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการฉีดพ่นหมึกคือข้อได
ตอบ อิงค์เจต

5. การที่ให้ปากกาเคลื่อนที่ไปมาบนเเกนโลหะเพื่อวาดภาพลงบนกระดาษเป็นหลักการของอุปกรณ์ชนิดได
ตอบ Flatbed Plotter

6. อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อ่านรหัสข้อมูลที่ติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ คืออุปกร์ได
ตอบ BaCode Reader

7. หน่วยความจำภายในกล้องดิจิตอลสามารถเก็บภาพได้ประมาณกี่ภาพ
ตอบ 30 ภาพ

8. ข้อไดไม่ใช่สื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
ตอบ รอม

9. สื่อบันทึกข้อมูลที่มีความจุมากกว่า 4.7 GB คือข้อได
ตอบ ฮาร์ดดิส

10. ข้อได้คือคุณสมบัติของเเฮนดี้ไดร์ฟ
ตอบ พกพาสะดวกจุข้อมูลมาก

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัด ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว

แบบฝึดหัดท้ายบท

 

1. Windows XP เป็นระบบปฏิบัติการของค่ายใด
ก. Adobe
ข. Microsoft
ค. Macromedia
ง. Windows

2. อุปกรณ์ชนิดใดคือหน่วยประมวลผลกลาง
ก. Printer
ข. Harddisk
ค. Mouse
. CPU

3. ข้อใดถูกต้องที่สุด ของ Input - Process - Output
ก. คีย์บอร์ด - เมาส์ - สแกนเนอร์
ข. คีย์บอร์ด - ซีพียู - ฮาร์ดดิส

ค. คีย์บอร์ด - ฮาร์ดดิส - จอภาพ
ง. คีย์บอร์ด - ซีพียู – จอภาพ
  4. ข้อใดคือความหมายของฮาร์ดแวร์
ก. กลุ่มคำสั่งหรือชุดคำสั่ง
ข. ค่าต่างๆที่ใช้ร่วมกับคำสั่ง
ค. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการแปลงข้อมูลจาก Input เป็น Output
ง. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีการรับส่งข้อมูลทั้งในรูปแบบของ Digital และ Analog

5. คอมพิวเตอร์ คือ
ก. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถรับข้อมูล และคำสั่ง แล้วนำไปประมวลผล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ข. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถแสดงผลลัพธ์ที่ต้องการได้โดยผ่านการกระบวนการประกอบแล้ว
ค. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า PC
ง. เครื่องมือที่ใช้รับค่า ประมวลผล และ แสดงผลลัพธ์ให้ผู้ใช้ตามความต้องการ

6. Output คือขั้นตอนใดของระบบการทำงานคอมพิวเตอร์
ก. รับข้อมูล
ข. แสดงผล
ค. คิดคำนวณ
ง. เก็บข้อมูล
7. ขั้นตอนแรกในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์คือข้อใด
ก. การติดตั้ง CPU
ข. การเสียบสายแพ
ค. การติดตั้ง Harddisk
ง. การติดตั้งพัดลมระบายอากาศ
8. Scanner จัดเป็นองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ประเภทใด
ก. Data
ข. Software
ค. Hardware
ง. Peopleware
9. ข้อใดเป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเบื้องต้น
ก. Monitor
ข. Keyboard
ค. Printer
ง. Case
10. ข้อใดเป็นการดูแลรักษาเครื่องพิมพ์ (Printer)
ก. วางเครื่องพิมพ์ไว้ในที่ ที่มีอุณหภูมิสูง
ข. ทำน้ำหรืออาหารหกใส่ตัวเครื่อง
ค. ปิดเครื่องพิมพ์ทุกครั้งหลังจากใช้งาน
ง. เมื่อกระดาษติด ก็ดึงกระดาษออกจากเครื่องพิมพ์อย่างรุงแรงทันที

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เมนบอดรุ่นใหม่!!!

MSI ผู้ผลิตเมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดชั้นนำระดับโลกมีการออกบูธที่ L607 ใน TWTC Nangang Exhibition Hall ที่จะนำมาแสดงให้เห็นถึงอำนาจและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของผลิตภัณฑ์ MSI ซึ่งจะเป็นที่ดึงดูดของผู้ที่สนใจ MSI จะแสดงสุดยอดของสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานทางทหารของสหรัฐอเมริกา (Military Class II Series) และเมนบอร์ด Intel Z68 รุ่นล่าสุดพร้อมเทคโนโลยี OC Genie II เอกสิทธิ์เฉพาะของ MSI


ในการแสดงจะมีการเมนบอร์ด AMD 9-Series ที่ใช้ Military Class II ที่มาพร้อมกับความง่ายในการโอเวอร์คล๊อกและการปลดล๊อกคอร์ที่ง่ายรวมถึงเมนบอร์ด Big Bang-Marshal (B3) ที่ถือว่าเป็นตัวชูโรงที่มาพร้อมกับสล๊อต PCI-E 2.0 x16 8 ช่องซึ่งถือว่ามากที่สุดแล้วในอุตสาหกรรมนี้และมีระบบเสียงคุณภาพ จาก Creative X-Fi MB2 ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคอเกมเพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปได้ด้วยประสิทธิภาพและระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม

Military Class II: ได้รับการรับรองคุณภาพจากกองทัพ มาตรฐานการทดสอบที่เข้มงวดเพื่อให้ได้คุณภาพดีที่สุด!

การเปิดตัวมาตรฐาน Military Class ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมไอทีและแม้ว่าคู่แข่งจะสามารถทำตามได้ทันทีแต่ด้วยชิ้นส่วนในระดับทหารจะพบได้เฉพาะผลิตภัณฑ์ในระดับสูงสุด แต่ด้วยคุณภาพที่ดีเลิศ, MSI ได้ติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดมาพร้อมกับเมนบอร์ด Z68/P67/H67 รุ่นล่าสุดและเมนบอร์ด AMD 9 – Series ด้วยชิ้นส่วนประกอบแบบ Military Class II ซึ่งรวมไปถึง Hi – c CAPS, SFCs และ Solid CAPS ซึ่งได้การทดสอบเข้มงวดของมาตรฐานทางทหารสหรัฐอเมริกา รวมถึงการทดสอบความกดดันต่ำ, การทดสอบอุณหภูมิสูง, การทดสอบต่ำ, การทดสอบช็อกอุณหภูมิ, การทดสอบความชื้น, การทดสอบการสั่นสะเทือนและการทดสอบการช็อก ทั้งในสภาพแวดล้อมที่มีการโอเวอร์คล๊อกหรือรุนแรงมาก, เมนบอร์ด MSI สามารถให้ประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่และให้คุณภาพความคาดหวังแก่ผู้ใช้ได้.

OC Genie II – เทคโนโลยีการโอเวอร์คล๊อกที่ชาญฉลาด: ประสิทธิภาพและพลังงานที่ยอดเยี่ยมบน Z68

แม้ว่า Military Class II เป็นมาตรฐานที่ทำให้เมนบอร์ด MSI มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่เทคโนโลยีในการโอเวอร์คล๊อกรุ่นใหม่ OC Genie II ช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเมนบอร์ด MSI เพิ่มขึ้นได้ไกลกว่าที่จะจินตนาการถึง ด้วยการเข้าถึงที่ใช้งานง่ายจากรุ่นที่ผ่านมา OC Genie II ยังทำให้การโอเวอร์คล๊อกง่ายยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานการโอเวอร์คล๊อกได้ 3 วิธีที่แตกต่างกัน : กดปุ่มบนเมนบอร์ด, เปิดการทำงานจากไบออส, หรือเปิดใช้งานจากโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ในเวลาเพียงหนึ่งวินาที, OC Genie II สามารถปล่อยประสิทธิภาพสูงสุดให้ระบบของคุณ.

MSI Z68 Series รุ่นล่าสุดเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่จัดแสดง นอกเหนือจากอุปกรณ์ Military Class II ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel Smart Response ที่ออกมาสำหรับ SSD ที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการอ่าน/เขียน รวมกับเทคโนโลยีพิเศษอย่าง MSI OC Genie II ทำให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม Z68 ได้ถึง 457% ซึ่งทำให้นำหน้าคู่แข่งไปมาก MSI Z68 Series รองรับทั้งระบบกราฟิกแบบภายในและกราฟิกแบบแยกเพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งานและความสามารถในการประหยัดพลังงาน.

Military Class II พร้อมกับ AMD 9-Series: ปลดล๊อกคอร์, โอเวอร์คล๊อก และรองรับทั้ง NVIDIA SLI/AMD CrossFireX

MSI AMD 9 – Series จะปรากฏตัวครั้งแรกที่งาน Computex 2011 ซึ่งจะประกอบด้วย Military Class II เพื่อรักษาเสถียรภาพในการทำงานและสถานะการโอเวอร์คล๊อกและการรับโหลดสูงๆ โดย MSI OC Genie II สามารถเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาและปลดล็อคคอร์ในซีพียูเอเอ็มดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 248%! MSI AMD 9 – Series ยังสนับสนุน NVIDIA SLI และ AMD CrossFireX สำหรับการแสดงผลแบบหลายซึ่งสามารถรองรับได้ถึง 4 การ์ดในเวลาเดียวกัน.

Big Bang-Marshal (B3): เมนบอร์ดสำหรับผู้ต้องการพลังการทำงานสูง

MSI Big Bang-Marshal (B3) เป็นเมนบอร์ดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการประกอบเครื่องด้วยตัวเอง โดยใช้ส่วนประกอบมาตรฐาน Military Class II, รองรับ 8 x PCI – E 2.0 x16 (มากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้) และตัวประมวลผลเสียงระดับพรีเมี่ยม Creative X – Fi MB2 สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเพลิดเพลินในการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม, ความเสถียรของระบบและคุณภาพเสียงที่โดดเด่น

การออกแบบแหล่งจ่ายไฟ DrMOS 24 เฟส ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและความเสถียรในการที่จะการดำเนินการใดๆ กับการโอเวอร์คล๊อก ในขณะที่แหล่งจ่ายไฟแบบคู่ 8 พินและแบบ 6 พินที่ต่อเพิ่มให้กับ VGA เป็นการให้แหล่งจ่ายไฟที่มั่นคงสำหรับโพรเซสเซอร์และกราฟิกการ์ดในการโอเวอร์คล๊อกเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีการลงwindowsต่างๆ

วิธีลง window 7

  • ขั้นแรก boot ระบบด้วยแผ่น dvd Windows 7 RC

  • ระบบจะทำการโหลดไฟล์ setting ลงไปในเครื่อง

  • โลโก้ bootscreen แบบอนิเมชันสวยงาม

  • หน้าเริ่มต้นการติดตั้ง บรรทัดแรก เลือกภาษาอังกฤษในการติดตั้ง
  • บรรทัดสอง เลือก time and currency format ช่องนี้ให้เลือกเป็นไทย
  • เพื่อที่ว่าเวลาติดตั้งเสร็จวินโดวส์จะมีภาษาไทยให้ใช้
  • บรรทัดที่สาม keyyboard เป็น US ก็ได้ครับไม่มีปัญหา แล้วกด next

  • พร้อมที่จะติดตั้ง กด Install now
  • ด้านล่างจะมีทางเลือกพิเศษให้สองทาง

  • ถ้าเลือก What to know before installing windows
  • จะเปิดไฟล์ Help and support ซึ่งจะบอกรายละเอียดของการติดตั้งเพิ่มเติม
  • ถ้าเลือกอีกหัวข้อ จะเป็น repair your computer คือการซ่อมวินโดวส์แบบไม่ต้องลงใหม่

  • กรณีนี้เราเลือก Install now จะมาที่หน้านี้
  • ให้คลิกยอมรับ Licence term

  • หน้านี้จะถามว่า คุณจะติดตั้งแบบไหน
  • ถ้าเลือก Upgrade จะเป็นการลงวินโดวส์ทับของเก่า โปรแกรมและไฟล์จะไม่หาย
  • ถ้าเลือก Custom จะเป็นการติดตั้งแบบลงใหม่หมด พร้อมฟอร์แมตดิสค์

  • หน้าต่างนี้ จะถามว่า คุณจะติดตั้งลงไดร์วไหน
  • ถ้าเครื่องคุณมีหลายไดร์ว ต้องจำชื่อหรือ จำขนาดให้ดี เลือกแล้ว กด next

  • copy ไฟล์ และทำการติดตั้ง ขั้นตอนนี้รอนานหน่อย

  • ยังไม่ครบขั้นตอนดี จะรีสตาร์ทก่อนรอบนึงครับ

  • เจอ boot screen logo สวยๆอีกแล้ว

  • กลับมาติดตั้งต่ออีกหน่อยนึง แล้วรีสตาร์ทอีกรอบ

  • ติดตั้งเสร็จแล้ว ตั้งชื่อผู้ใช้ และ ตั้งชื่อคอมพิวเตอร์

  • ตั้งรหัสผ่าน ถ้าไม่ต้องการใช้รหัสผ่านให้เว้นว่างไว้เลย

  • ใส่ Product key ที่ได้มาจากตอนลงทะเบียนดาวโหลดตัวติตดั้ง

  • ตั้งค่าการอัพเดต แนะนำให้เลือก use recommended setting

  • ตั้งเวลา และวันเดือนปี เอาเป็น +7.00 bangkok นะครับ

  • จากนั้นตั้งสภาพแวดล้อมในการใช้งานคอมพิวเตอร์ แต่ละหัวข้อจะมีความปลอดภัยต่างกัน
  • Home network ความปลอดภัยจะต่ำ เน้นการแชร์ไฟล์ให้กันและกัน
  • Work network ควมปลอดภัยปานกลาง แชร์ไฟล์ได้แต่ต้องมีรหัสผ่าน
  • Public network ความปลอดภัยสูง ไม่เก็บพาสเวิร์ดและไม่แชร์ไฟล์
  • ถ้าไม่แน่ใจให้เลือก Public network

  • เสร็จสิ้นการติดตั้ง เตรียมเข้าสู่ Windows 7


  • หน้าจอ Desktop ของ Windows 7 RC
จะสังเกตได้ว่า ติดตั้งง่าย รวดเดียวจบ ไม่ต้องลงไดร์วเวอร์เลย ระบบมันจะหาให้เราเองหมด อาจจะมีบ้างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อกับเครื่องพิมพ์หรือเครื่องสแกนเนอร์หรือฮาร์ดแวร์อื่นๆ ที่อาจจะจำเป็นต้องหาไดร์เวอร์มาลงเอง แค่หาไดร์เวอร์ส่วนต่างๆในเครื่องได้ก็แจ๋วแล้วครับ
activated
อีกข้อแนะนำคือ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ขอให้เข้าไปทำการ activate หรือลงทะเบียนการใช้งานแบบสมบูรณ์ ซึ่งต้องทำภายใน 30 วัน หลังจากติดตั้งแล้ว สามารถทำได้แบบออนไลน์ แค่คลิกเมนู start ไปที่ my computer คลิกขวา เลือก properties เลื่อนลงมาด้านล่างจะมีลิ้งค์ให้คลิก activate online เมื่อทำเสร็จแล้ว จะสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องเป็นเวลา 1 ปี หรือ ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2010
เริ่มต้น โดยการเซ็ตให้บูตเครื่องจาก CD-Rom Drive ก่อน โดยการเข้าไปปรับตั้งค่าใน bios ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเลือกลำดับการบูต ให้เลือก CD-Rom Drive เป็นตัวแรกครับ (ถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร)

ทำการปรับเครื่อง เพื่อให้บูตจาก CD-Rom ก่อน จากนั้นก็บูตเครื่องจากแผ่นซีดี windows XP Setup โดยเมื่อบูตเครื่องมา จะมีข้อความให้กดปุ่มอะไรก็ได้ เพื่อบูตจากซีดีครับ ก็เคาะ Enter ไปทีนึงก่อน

โปรแกรมจะทำการตรวจสอบและเช็คข้อมูลอยู่พักนึง รอจนขึ้นหน้าจอถัดไปครับ


เข้ามาสู่หน้า Welcome to Setup กดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

หน้าของ Licensing Agreement กดปุ่ม F8 เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

ทำการเลือก Drive ของฮาร์ดดิสก์ที่จะลง Windows XP แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP หากต้องการใช้ระบบ NTFS ก็เลือกที่ข้อบน แต่ถ้าจะใช้เป็น FAT32 หรือของเดิม ก็เลือกข้อสุดท้ายได้เลย (no changes) ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำให้เลือก FAT32 นะครับ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง รอสักครู่ครับ

หลังจากนั้น โปรแกรมจะทำการ Restart เครื่องใหม่อีกครั้ง (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำงานไปเองได้เลยครับ)

หลังจากบูตเครื่องมาคราวนี้ จะเริ่มเห็นหน้าตาของ Windows XP แล้วครับ รอสักครู่

โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้งต่าง ๆ ก็รอไปเรื่อย ๆ ครับ

จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้กดปุ่ม Next ไปเลยครับ ยังไม่ต้องตั้งค่าอะไรในช่วงนี้

ใส่ชื่อและบริษัทของผู้ใช้งาน ใส่เป็นอะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

ทำการใส่ Product Key (จะมีในด้านหลังของแผ่นซีดี) แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

หน้าจอให้ใส่ Password ของ Admin ให้ปล่อยว่าง ๆ ไว้แบบนี้แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

เลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

รอครับ รอ รอ รอสักพัก จนกระทั่งขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมแล้วสำหรับการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP ครับ จากนั้น จะมีการบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการใช้งานจริง ๆ

บูตเครื่องใหม่คราวนี้ อาจจะมีเมนูแปลก ๆ แบบนี้ เป็นการเลือกว่า เราจะบูตจากระบบ Windows ตัวเก่าหรือจาก Windows XP ครับ ก็เลือกที่ Microsoft Windows XP Professional ครับ ถ้าของใครไม่มีเมนูนี้ก็ไม่เป็นไรนะครับ

เริ่มต้นบูตเครื่อง เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP แล้วครับ

ในครั้งแรก อาจจะมีการถามเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใช้งาน กด OK เพื่อให้ระบบตั้งขนาดหน้าจอให้เราได้เลยครับ นอกจากนี้ ถ้าหากเครื่องไหนมีการถาม การติดตั้งค่าต่าง ๆ ก็กดเลือกที่ Next หรือ Later ไปก่อน บางครั้งอาจจะมีให้เราทำการสร้าง Username อย่างน้อย 1 ฃื่อก่อนเข้าใช้งาน ก็ใส่ชื่อของคุณเข้าไปได้เลย
เสร็จแล้วครับ หน้าตาของการเข้า Windows XP สวยดีครับ

และนี่คือหน้าตาแรก ของระบบปฏิบัติการ Windows XP Professional ครับ ต่อไปก็เป็นการปรับแต่ง และการลง Driver ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อยต่อไป